แถลงการณ์ พรรคเพื่อไทย เรื่อง มติรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลังสภาลงมติคว่ำสูตรหาร 100 ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งต่อไป สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์คือ สูตรหาร 500 ภายหลัง การประชุมรัฐสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. วาระ 2 มาตรา 23 เกี่ยวกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์) ซึ่งท้ายที่สุดผลปรากฎว่า เสียงข้างมาก 354 เสียง เห็นด้วยกับคำแปรญัตติ ของ นพ.ระวี ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 37 เสียง ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งต่อไป สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์คือ สูตรหาร 500
ล่าสุด ในส่วนความเคลื่อนไหวของ พรรคเพื่อไทย ได้มีการร่อนแถลงการณ์กี่ยวกับประเด็นดังกล่าว วันนี้ (7 ก.ค.65) โดยมีเนื้อหา ดังนี้
แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่อง มติรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2564 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้ง ส.ส.จากระบบจัดสรรปันส่วนผสมมาเป็นระบบคู่ขนานซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ใน พ.ศ. 2554
การเลือกตั้งตามระบบใหม่นี้แยกการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อออกจากกัน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบละ 1 ใบ การคํานวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับคะแนนรวมในแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นได้รับ ไม่มีการนําจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่พรรคการเมืองได้รับมาพิจารณาว่าผลสุดท้ายพรรคการเมืองนั้นจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าใด
ร่าง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ทั้ง 4 ร่าง รวมทั้งร่างของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นร่างหลักในการพิจารณาในการแก้ไขมาตรา 128 แห่ง พรป.เลือกตั้งฯ ต่างก็เสนอวิธีการคํานวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมเหมือนกัน คือ ให้นําผลคะแนนรวมที่ทุกพรรคการเมืองได้รับจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อหารด้วย 100 แล้วนําผลลัพธ์ไปหารคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ ผลก็คือจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง โดยไม่คํานึงว่าพรรคการเมืองจะได้ ส.ส.แบ่งเขตเท่าใด ซึ่งคณะกรรมาธิการที่รัฐสภาตั้งก็เห็นชอบกับร่างที่แก้ไข มาตรา 128 โดยไม่มีการแก้ไข
สองวันนี้มีข่าวมาตลอดว่ามีผู้มีอำนาจในรัฐบาลต้องการให้เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งกลับไปเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมเพื่อสืบทอดอำนาจของตนต่อไป โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและข้อบังคับของรัฐสภา คำนึงแต่ความอยู่รอดและผลประโยชน์ทางการเมืองของตน วันนี้สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในซีกรัฐบาลได้ใช้เสียงข้างมากจงใจกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยลงมติแก้ไขมาตรา 128 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เพื่อนําระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ถูกยกเลิกโดยรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กลับมาใช้ การแก้ไขเช่นนี้ขัดมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาอย่างชัดเจน
พรรคเพื่อไทยจึงขอแถลงให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนได้ทราบถึงการใช้เสียงข้างมากกระทำการตามอำเภอใจ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ และพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นร่างมาตรา 128 ขัดรัฐธรรมนูญต่อไป และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายเหล่านี้
รองโฆษกตำรวจ แจงเหตุระเบิดที่บันนังสตา ยะลา ไม่มีคนเจ็บ เร่งเช็กกล้องวงจรปิด
เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ล่าสุด รองโฆษกตำรวจ แจงเหตุระเบิดที่บันนังสตา ยะลา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เร่งเช็กกล้องวงจรปิดล่ามือวางระเบิด ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งเบาะแส
ข่าวความไม่สงบภาคใต้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่ จว.ยะลา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.02 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ทาง สภ.บันนังสตา จว.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบจำนวน ลักลอบวางระเบิด ที่บริเวณ ถ.เส้น 410 ใกล้ปากทางเข้าโรงเรียนคัมภีร์ หมู่ที่ 9 บ้านเจาะปันตัง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จว.ยะลา ในเบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่อีโอดี (EOD) และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
เมื่อสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่อีโอดี (EOD) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชนรวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง